Valentine's Day
TREE OF LOVE
ระยะเวลากิจกรรม
สถานที่
: 14-21 กุมภาพันธ์ 2568
: ณ เคาน์เตอร์บริการ ชั้น 1 สำนักหอสมุด มจธ. (N10)

วันวาเลนไทน์


นักบุญวาเลนไทน์คือใคร?
มีความเกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์อย่างไร?
แม้ประวัติของวันวาเลนไทน์และเรื่องราวของนักบุญที่เป็นผู้อุปถัมภ์ของวันวาเลนไทน์นั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ แต่ในหลายตำนานล้วนกล่าวว่า นักบุญวาเลนไทน์เป็นผู้ถูกสังหารในฐานะมรณสักขี (ผู้สละชีพเพื่อศรัทธาในศาสนา) ในยุคสมัยหนึ่งจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ออกกฎหมายห้ามแต่งงาน แต่นักบุญวาเลนไทน์ตระหนักถึงความไม่ยุติธรรมและแอบลอบทำพิธีให้แก่คู่รักหนุ่มสาวอย่างลับ ๆ เมื่อการกระทำของเขาถูกเปิดเผย เขาจึงได้รับโทษประหารชีวิต
มีอีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า วาเลนไทน์อาจถูกประหารชีวิตเพราะพยายามช่วยชาวคริสเตียนหลบหนีจากคุกโรมันที่โหดร้าย หรืออีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ก่อนจะสิ้นชีวิต วาเลนไทน์ที่ถูกขังอยู่ในคุกได้ส่งการ์ดวาเลนไทน์ใบแรกถึงหญิงที่เขาตกหลุมรัก โดยลงชื่อว่า “From Your Valentine” ซึ่งเป็นคำพูดที่ยังคงใช้กันจนถึงทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นของวันวาเลนไทน์

ยุคโรมันโบราณ

ค.ศ. 270

ปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของวันวาเลนไทน์
บางคนเชื่อว่าวันวาเลนไทน์กำเนิดขึ้นเพื่อระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ผู้ล่วงลับในช่วงปี ค.ศ. 270 แต่ก็มีบางแหล่งข้อมูลที่กล่าวว่า เป็นเทศกาลของกลุ่มคนนอกศาสนาที่จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเฟานุส ซึ่งเป็นเทพแห่งการเกษตรของโรมัน และยังเป็นเทศกาลแห่งความอุดมสมบูรณ์เพื่ออุทิศให้กับท่านผู้ก่อตั้งโรมัน นามว่าโรมูลัสและเรมุส โดยเรียกขานเทศกาลนี้ว่า “ลูเปอร์คาเลีย (Lupercalia)” ต่อมาก็ได้มีการรวมเทศกาลของทั้งสองกลุ่มเข้าด้วยกันจนเป็นเทศกาลวันวาเลนไทน์ในปัจจุบัน
วัฒนธรรมการแสดงความรักของแต่ละประเทศ

ชาวอาร์เจนตินาไม่ได้ฉลองแค่วันวาเลนไทน์เท่านั้น แต่พวกเขายังมี “สัปดาห์แห่งความหวาน” ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการแลกจูบเพื่อรับขนมหวาน เดิมทีเทศกาลนี้เริ่มขึ้นจากแคมเปญการตลาดของผู้ผลิตขนม แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ประชาชนที่เต็มไปด้วยความหลงใหล

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ชาวบัลแกเรียฉลอง วันนักบุญทรีฟอน ซาเรซาน หรือที่เรียกกันว่า “วันแห่งผู้ผลิตไวน์” คู่รักมักจะใช้โอกาสนี้แสดงความรักต่อกันด้วยการดื่มไวน์รสเลิศของประเทศ

ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ หมู่บ้านที่มีชื่อเรียกว่า “Village of Love” จะเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางแห่งความโรแมนติก คุณจะได้เห็นบ้านเรือนตกแต่งด้วยกุหลาบ ต้นไม้ที่เต็มไปด้วยโน้ตข้อความแห่งรัก การขอแต่งงานมากมาย และโอกาสที่จะได้ปลูกต้นไม้แห่งความรักของตนเอง

ชาวเกาหลีใต้ที่โรแมนติก ฉลองวันแห่งความรักในวันที่ 14 ของทุกเดือน ไม่ใช่แค่ในเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น วันพิเศษเหล่านี้รวมถึง Rose Day (วันดอกกุหลาบ) ในเดือนพฤษภาคม, Kiss Day (วันจูบ) ในเดือนมิถุนายน, Hug Day (วันกอด) ในเดือนธันวาคม และ Black Day (วันแห่งคนโสด) ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นวันที่คนโสดมารวมตัวกันเพื่อปลอบใจกันด้วย จาจังมยอน หรือ บะหมี่ดำ

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ชาวโรมาเนียฉลองเทศกาล ดรากอเบเต้ (Dragobete) หรือที่เรียกว่า “วันที่นกจับคู่” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวันวาเลนไทน์และการเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ เด็กหนุ่มสาวจะออกไปเก็บดอกไม้ในป่า ขณะที่บางคนล้างหน้าด้วยหิมะเพื่อความสุขและสุขภาพที่ดี

ชาวเหมียว ทางตกวันตกเฉียงใต้ของจีน ในช่วงเทศกาลมื้ออาหารของพี่น้อง (The Sisters Meal Festival) ผู้หญิงจะปรุงข้าวหลากสีสัน ห่อด้วยผ้าไหม และนำไปมอบให้กับชายหนุ่มที่มาจีบพวกเธอ ความสัมพันธ์จะขึ้นอยู่กับของที่พบในข้าว ตะเกียบสองคู่หมายถึงความรัก แต่ถ้าพบ กระเทียม ความโรแมนติกก็จบลงก่อนจะเริ่มเสียอีก

“วันแห่งคนรัก” (Dia dos Namorados) ในบราซิลถูกจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน และในวันถัดไปมีการเฉลิมฉลอง วันนักบุญแอนโทนี ซึ่งเป็นนักบุญผู้คุ้มครองการแต่งงาน ผู้หญิงโสดมักจะทำพิธีกรรมที่เรียกว่า ซิมปาเทียส ด้วยความหวังว่าพวกเธอจะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป

ตามประเพณีโบราณของ เทศกาลลูเปอร์คาเลีย (Lupercalia) หญิงสาวในแอฟริกาใต้จะแปะชื่อของคนที่เธอแอบชอบไว้ที่แขนเสื้อเพื่อให้ทุกคนเห็น เพราะบางครั้ง การแอบส่งการ์ดแบบไม่เปิดเผยตัวก็ไม่เพียงพอที่จะสื่อความในใจได้

สำหรับชาววาเลนเซีย วันที่โรแมนติกที่สุดในปีคือ วันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งเป็น วันนักบุญดิออนิซิอุส นักบุญผู้คุ้มครองความรัก ในโอกาสพิเศษนี้ มีการจัดเทศกาลและขบวนพาเหรดมากมาย โดยตามธรรมเนียม ผู้ชายจะมอบ “มอกาโดรา” (Mocadora) ซึ่งเป็นขนมมาร์ซิแพน ให้กับคู่รักของตนเพื่อแสดงความรัก

ชาวเวลส์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความหลงใหลในความรัก จะเฉลิมฉลอง “วันเซนต์ดวินเวน” (St Dwynwen’s Day) ในวันที่ 25 มกราคม หนึ่งในประเพณีเก่าแก่คือการแลกเปลี่ยน ช้อนไม้แกะสลักอย่างประณีต หรือที่เรียกว่า “ช้อนแห่งความรัก” (Lovespoons) ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16

เทศกาลแห่งความรักของจีนที่เรียกว่า “ฉีซี” (Qixi) จัดขึ้นในวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน มีที่มาจาก ตำนานรักอันแสนเศร้าของชายเลี้ยงวัวและหญิงทอผ้า ที่ถูกพรากจากกันเพราะฐานะทางสังคม แต่ได้รับอนุญาตให้พบกันเพียงปีละครั้ง ทุกวันนี้ คนโสดมักเตรียมผลไม้เพื่อขอพรให้พบรักแท้ ขณะที่คู่รักจะอธิษฐานเพื่อความเจริญรุ่งเรือง

ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ได้ถูกกำหนดให้เป็น “วันช็อกโกแลตแห่งชาติ”(National Chocolate Day) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เนื่องจากกานาเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ของโลก ในวันนี้จะมีเมนูพิเศษที่ทำจากช็อกโกแลต นิทรรศการ และการเสวนาต่าง ๆ จัดขึ้นทั่วประเทศ

ในขณะที่หลายประเทศผู้หญิงเป็นฝ่ายได้รับของขวัญในวันวาเลนไทน์ แต่ที่ญี่ปุ่น ผู้ชายเป็นฝ่ายได้รับ ช็อกโกแลตจากผู้หญิง และในวันที่ 14 มีนาคม หรือที่เรียกว่า “ไวท์เดย์” (White Day) ผู้ชายจะเป็นฝ่ายตอบแทนของขวัญกลับไป

แม้ว่าวันวาเลนไทน์จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่วันที่ 1 พฤษภาคม ยังคงเป็นวันที่ชาวเช็กเฉลิมฉลองความรักแบบดั้งเดิม คู่รักหลายคู่จะเดินทางไป อนุสาวรีย์ของกวีคาเรล ไฮเน็ค มาช่า (Karel Hynek Mácha) ที่ สวนเปตริน และเชื่อกันว่าการจูบใต้ต้นซากุระจะนำโชคดีมาตลอดปี

วันวาเลนไทน์เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ งานแต่งงานหมู่ ซึ่งคู่รักหลายร้อยหรือบางครั้งเป็นพันคู่ จะเข้าพิธีสมรสพร้อมกัน งานเหล่านี้มักได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในฐานะการบริการสาธารณะ
วัฒนธรรมการแสดงความรักของประเทศไทย





เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก ผู้คนในประเทศไทยก็
เฉลิมฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ด้วยเช่นกัน โดยเรามักพบเห็นการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และคาเฟ่ ในธีมวันวาเลนไทน์ รวมถึงการจำหน่ายช็อกโกแลตและช่อดอกกุหลาบอย่างแพร่หลาย เป็นวันสำคัญที่ผู้คนใช้แสดงความรักต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบโรแมนติก มิตรภาพ หรือความผูกพันในครอบครัว
แล้วคุณล่ะ แสดงความรักต่อคนที่คุณรักแบบไหน? อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังผ่านต้นไม้แห่งรักต้นนี้กันด้วยนะ!
วัฒนธรรมการแสดงความรักของประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยมีการปฏิบัติเช่นเดียวกับหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ผู้คนเฉลิมฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ด้วยเช่นกัน โดยมักพบเห็นการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และคาเฟ่ ในธีมวันวาเลนไทน์ รวมถึงการจำหน่ายช็อกโกแลตและช่อดอกกุหลาบอย่างแพร่หลาย
ในประเทศไทย การเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์เริ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตก แม้จะไม่มีพิธีกรรมพิเศษเฉพาะ แต่แนวปฏิบัติที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การมอบช่อดอกไม้ให้กับคนรักหรือผู้ที่แอบชอบ การให้ช็อกโกแลตเป็นของขวัญ รวมถึงการพาคู่รักไปรับประทานอาหารค่ำเพื่อใช้เวลาร่วมกัน วันวาเลนไทน์จึงเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของวัฒนธรรมและการให้ความสำคัญกับความรักในสังคมไทย
แม้ว่าวันวาเลนไทน์จะมีต้นกำเนิดจากความเชื่อทางศาสนาคริสต์ แต่ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานและการแพร่กระจายของวัฒนธรรม การเฉลิมฉลองในปัจจุบันไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับพิธีกรรมทางศาสนาอีกต่อไป กลายเป็น "วันแห่งความรัก" ที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถแสดงความรักและความปรารถนาดีต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของความรักโรแมนติก มิตรภาพ หรือความสัมพันธ์ในครอบครัว ทั้งนี้ แนวทางการเฉลิมฉลองในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกันตามบริบททางสังคม วัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่น
การศึกษาประเพณีวันวาเลนไทน์ในแต่ละประเทศช่วยให้เข้าใจถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความรัก ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าความรักเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน แม้จะอยู่ในบริบทที่แตกต่างกันก็ตาม แล้วคุณล่ะ แสดงความรักต่อคนที่คุณรักแบบไหน? อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังผ่านต้นไม้แห่งรักต้นนี้กันด้วยนะ!
ภาพกิจกรรม
References:
History.com Editors. (2025, February 4). History of Valentine’s Day. Retrieved from https://www.history.com/topics/valentines-day/history-of-valentines-day-2
Marketeer Team. (12 ธันวาคม 2559). “วันวาเลนไทน์” ของ 16 ประเทศทั่วโลก. เข้าถึงได้จาก https://marketeeronline.co/archives/34754
MI. (11 ธันวาคม 2567). วันวาเลนไทน์: ประวัติวันแห่งความรัก (14 กุมภาพันธ์). เข้าถึงได้จาก https://potico.co.th/blog/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81